วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ประวัติและประเภทของหูฟังแต่ละชนิด

หูฟังอันแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ.1910

1. กำเนิด Full size
เท้าความในสมัยที่มีการเริ่มประดิษฐ์อุปกรณ์ต่างๆ เอดิสันได้ประดิษฐ์สิ่งของมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเครื่องบันทึกเสียงและเครื่องเล่นอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกพัฒนาไปอย่างมากมาย กลายเป็นเครื่องเล่นตามบ้าน มีการสร้างลำโพงตั้งโต๊ะ ยุคสมัยจริงๆ ของหูฟังน่าจะเป็นช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ เมื่อเริ่มมีการฟังเพลงตามบ้านกันมากขึ้น แต่มีปัญหาว่าต้องเปิดดังทำให้รบกวนคนอื่นจึงได้มีคนคิดเอาดอกลำโพงของลำโพงตั้งโต๊ะมาทำให้เล็กลง พอดีกับหู (แต่ในสมัย
นั้นก็ยังถือว่าใหญ่มาก หนักเป็นกิโลเลยทีเดียว) ใส่กรวยครอบและใส่ที่คาดเพื่อไม่ต้องใช้มือจับและไม่ให้หลุดง่ายจึงเป็นที่มาของ
 "หูฟัง Full size" (ในตอนแรกยังไม่มีฟองน้ำ เรียกว่า Full size แบบเปิด มีแต่ไดรเวอร์แปะกับหูโดยตรงเท่านั้น ตอนหลังจึงมีฟองน้ำให้ใส่สบายไม่ล้าและช่วยกันเสียงภายนอก เราเรียกกันว่า Full size แบบปิด)



หูฟังขนาด Full size
-----------------------------------------------------------------------------------------

2. กำเนิด Ear bud

        หลังจากสงครามโลกครั้งที่ ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม ญี่ปุ่นต้องพัฒนาตัวเองอย่างหนักเพื่อเอาชีวิตรอดได้มีการปฏิวัติการพัฒนาเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นก็คื่อเครื่องเล่นเทปแบบพกพาโดยเจ้าของโซนี่เป็นผู้คิดค้น พอคิดค้นได้ก็ต้องมีหูฟังมาใช้ร่วมกัน ตอนแรกก็นำเอา Full size มาใช้ แต่ด้วยน้ำหนักที่มาก ดูเทอะทะ จึงได้ทำการลดขนาดให้เล็กลง แต่ยังใช้ที่คาดแบบที่คาดผมอยู่ (เป็นต้นกำเนิดของหูฟังกึ่ง Full size ในปัจจุบัน)แต่ขนาดนั้นก็ยังใหญ่เกินไปถ้าจะพกพาจึงได้มีการลดขนาดให้ไดร์เวอร์เล็กและทำให้ใส่ในรูหูได้พอดี(กว่าจออแบบมาได้โซนี่ได้ลองผิดลองถูกตั้งนาน)เป็นที่มาของหูฟัง "Ear bud"
หูฟัง Ear bud
-----------------------------------------------------------------------------------------


3. กำเนิด In ear

       ยุคสมัยเพลงเบ่งบานในอเมริกา (ประมาณปี 1950-1980) ได้มีการทำเพลงออกมามากมายมีเพลงออกมาหลากหลายสไตล์อเมริกาก้าวล้ำเรื่องเพลงไปมากกว่ายุโรปและประเทศอื่นๆหลายเท่าตัวการบันทึกเสียงก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัวถ้าคนที่เคยอยู่ในห้องซ้อมหรือห้องอัดจะรู้ดีว่าเวลาเล่นเสียงมันค่อนข้างดังถึงดังมาก ทำให้เล่นผิดจังหวะมือกลองที่ต้องคุมจังหวะส่วนใหญ่จึงต้องใส่ Full size แบบปิดเพื่อกันเสียงและก็ได้ฟังจังหวะที่ถูกต้องแต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ที่ความใหญ่ใส่ไม่สะดวกนักร้องหรือ นักกีตาร์ จะใส่ไม่ถนัด จึงมีการคิดค้นหูฟังขนาดเล็กที่สามารถกันเสียงได้และได้ยินเสียงที่ชัดเจนจึงเป็นต้นกำเนิดของหูฟัง"In ear"เมื่อนักฟังเพลงได้เห็นนักดนตรีใช้จึงเอาแบบอย่างบ้าง In ear จึงได้เริ่มมีการผลิตมาเพื่อฟังเพลงมากขึ้น



หูฟัง In ear

แต่ด้วยการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนเพราะมีพื้นที่ขนาดเล็กไดร์เวอร์ก็ต้องเล็กตาม และการที่จะทำให้เสียงดีได้นั้นไม่ง่าย ราคาจึงค่อนข้างแพงกว่าหูฟัง2กลุ่มที่ผ่านมาแล้วอย่างมากอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาหนักอกแก่ผู้พัฒนา In ear อย่างมากก็คือเสียงที่ได้ค่อนข้างแคบเพราะตอนแรกตั้งใจจะทำเพื่อใช้ในสตูดิโอเท่านั้น(ต้องการแค่กันเสียงกับให้เสียงที่ชัดเจน)ไม่ได้ทำมาเพื่อใช้ในการฟังเพลงจึงต้องการแก้ปัญหากันตรงนี้

ด้วยกายภาพของ In ear
มีพื้นที่น้อยมากการจะทำให้เสียงกว้างจึงเป็นงานหินทีเดียวพยายามหาจุกโฟมหลายๆแบบเพื่อให้เสียงโปร่งขึ้นไม่อึดอัดมีการแถมจุกโฟหลายๆแบบเพื่อให้เลือกใช้ตามความต้องการในที่สุดก็ได้มาจบตรงการใส่ไดร์เวอร์เพิ่มเพื่อให้เสียงและช่วงเสียงกว้างขึ้นแต่ก็ทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาเพราะพื้นที่มีค่อนข้างน้อยและระยะทางถึงแก้วหูค่อนข้างสั้นทำให้เสียงของแต่ละไดร์เวอร์ตีกันเอง(ภาษานักเล่นเรียกว่า Cross over) จึงต้องมีการทำภาคแก้ไข Cross over ออกมาด้วยสำหรับหูฟัง In ear ที่มีตั้งแต่ ไดร์เวอร์เป็นต้นไป นั่นเป็น
เหตุผลทำให้หูฟัง In ear ที่มีหลายๆ ไดร์เวอร์ ก็แพงกว่าแบบธรรมดาหลายเท่าตัวเช่นเดียวกันมีการนำ In ear ไปใช้ในงานคอนเสิร์ตต่างๆ ด้วย (เสียงในคอนเสิร์ตค่อนข้างดัง และฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง) นักร้อง นักดนตรีจึงต้องใช้ In ear ช่วย แต่ก็เกิดปัญหาในเรื่องของการใส่แล้วหลุดบ่อยบ้าง ยังไม่สามารถเก็บเสียงได้ดีที่สุดบ้าง นักร้อง นักดนตรีจึงได้สั่งทำ In ear ที่มีขนาดพอดีกับหูตัวเองออกมา เป็นการเฉพาะ เราเรียกกันว่า "In ear custom"



หูฟังแบบ In ear custom
เป็นหูฟังที่หล่อขึ้นมาเฉพาะผู้ใส่เพียงคนเดียว เพื่อที่ขนาดจะได้พอดีหูที่สุด เพราะฉะนั้นราคาจึงแพงมาก และเหมาะสำหรับการใช้คนเดียว

ประเทศที่เริ่มผลิตหูฟัง In ear ก็คืออเมริกา ฉะนั้น In ear ดีๆ จึงมาจากอเมริกาเกือบทั้งหมด (เพราะเขาทำมาก่อน เป็นต้นแบบ)

 ยี้ห้อที่แนะนำเช่น Shure , UE , UM เป็นต้น

-----------------------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเติม


     แม้ว่าหูฟังปัจจุบันเกือบทั้งหมดจะทำในที่จีนแล้วก็ตาม แต่บริษัทที่เข้าไปลงทุนก็เป็นบริษัทฝรั่ง กับญี่ปุ่น คนจีนก็เริ่มก๊อปและพัฒนาหูฟังในแบบของตัวเอง โดยนำตัวดีๆ ของแต่ละบริษัทมาเป็นต้นแบบ จึงเริ่มมีหูฟังจีนดีๆ ที่ถูกกล่าวถึงกันมากขึ้น เช่น Yuin แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาสักระยะกว่าจะตามทัน ในความเห็นส่วนตัวของผม คาดว่าในอนาคตจีนจะตามทันและแซงได้ในที่สุด จีนจะมีหูฟังดีๆ ราคาไม่แพงออกมาให้เราใช้อีกโขทีเดียวจากที่เขียนมาตั้งยืดยาวจะเห็นได้ว่า การจะบอกว่า Full size , Ear bud , In ear อะไรดีกว่ากันคงจะเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละตัวมีจุดกำเนิดไม่เหมือนกัน อยู่ที่เรามากกว่าว่าจะใช้ทำอะไร (เหมือนกับรถ มีทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รถมอไซค์ มันก็อยู่กับสถานการณ์ว่าจะต้องใช้อะไรไปซื้อของใกล้ๆ ใช้มอไซค์ ใช้รถยนต์เปลืองน้ำมัน หาที่จอดยาก ไปเที่ยวมีของด้วยใช้กระบะเข้าเมือง ติดต่อธุระใช้รถเก๋ง) ถ้าเดินทางผมใช้ In ear ถ้าอยู่บ้านทำงานเดินไปเดินมาใช้ Ear bud ถ้าต้องการเสียงคุณภาพกันสุดๆ ผมไม่มี Full size ผมก็ฟังเครื่องเสียงเอาครับ



---------------------------------------------------------------------------------------

ทางเรามีคลิปวิดิโอเพิ่มเติมและเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นครับ

ประวัติหูฟังจากอดีต สู่ปัจจุบัน





ประเภทของหูฟังทั้งหมด






-----------------------------------------------------------------------------------------
ผิดถูกประการใด ทาง HeadPhone 89 ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น