"ชนใดไม่มีดนตรีกาล
ในสันดารเป็นคนชอบกล"
จากคำกล่าวนี้เองที่ทำให้มนุษย์นั้นมีดนตรีในหัวใจไม่ว่าอยู่ในเหตุการณ์ใดในชีวิต
ดนตรีจะมีส่วนช่วยจรรโลงจิตใจเสมอ
ซึ่งปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่่างรวดเร็วในด้านเทคโนโลยี แล้วจะดีแค่ไหนหากเราสามารถอัพเดทเพลงใหม่ๆ
หรือดูชาร์ตเพลงฮิตประจำสัปดาห์ได้ตลอด
และที่สำคัญยังสามารถโหลดเก็บไว้ฟังในเครื่องแบบเรียวทามได้ วันนี้ทาง HeadPhone 89 ได้รวบรวม
แอพลิเคชั่นฟังเพลงมาแรงประจำปี 2016 มาแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านได้ติดตามกัน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันดับที่
5 SoundCloud
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันดับที่ 4 ฟังใจ FungJai
![]() | |
สิ่งที่โดดเด่นใน Fungjai นั้นก็คือการมีเพลย์ลิสต์มากมายให้ผู้ฟังได้เลือกฟังตามอารมณ์
ซึ่งจะมีทีมงานที่คอยฟังเพลงทุกเพลงที่ถูกส่งเข้ามาและรวมเพลงเหล่านั้นที่มีเนื้อหาคล้ายๆกันเข้ามาไว้ด้วยกัน
จนเกิดเป็นเพลย์ลิสต์สไตล์ต่างๆ โดยการเติบโตที่ก้าวกระโดดของ Fungjai นั้นก็คือตอนนี้มีประมาณ 5,000 เพลง
และศิลปินอีกกว่า 1,000 ชีวิต
และมีคนเข้ามาใช้บริการเดือนละกว่า 7 หมื่นคน
ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จไปได้มากเลยทีเดียวสำหรับวงการ Startup ซึ่งสิ่งตอบแทนที่ศิลปินจะได้รับก็คือ ได้เป็นที่รู้จัก
มีฐานแฟนเพลงเพิ่มขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น และได้รับการแบ่ง
เปอร์เซ็นต์รายได้ตามยอดการฟังของศิลปินนั้นๆ นอกจากตัวศิลปินแล้ว
สิ่งที่ผู้ฟังจะได้รับก็คือ การฟังเพลงฟรี สนับสนุนศิลปินอย่างถูกลิขสิทธิ์
ค้นพบศิลปินใหม่ๆได้ง่ายขึ้น โดยทาง Fungjai เองก็จะได้ประโยชน์จากโฆษณาต่างๆ
ที่จะเข้ามาในอนาคต
แต่ใช่ว่า Fungjai จะมีแต่พุ่งทะยานเป็นเส้นตรงขึ้นไปอย่างเดียว
ปัญหาที่เจอในช่วงแรกๆที่เริ่มก็คือ เรื่องของเวลาและเรื่องของเงิน
ซึ่งเป็นเหมือนปัจจัยหลักของการทำ Startup เลยก็ว่าได้
จึงทำให้คุณท้อปต้องพยายามอย่างหนักในการหารายได้เข้ามาให้ทั้ง Fungjai และตัวคุณท้อปเองไปพร้อมๆกัน โดยต้องแบ่งช่วงเวลาไปทำงานออกแบบ ทำ Fungjai
และสอนหนังสือ จึงทำให้ไม่มีเวลา และไม่สามารถโฟกัสที่ Fungjai
ได้อย่างเต็มที่
แต่สิ่งที่ช่วยให้ผ่านในจุดๆนั้นมาได้ก็คือการทำไปเรื่อยๆ อดทนฟันฝ่ามัน
ถึงจะเหนื่อยแต่คุณท้อปก็ไม่ล้มเลิก วางกลยุทธ์ เดินหน้าคิดแผนธุรกิจ
จัดคอนเสิร์ตขึ้นจนประสบความสำเร็จ มีผู้คนรู้จัก มีนักลงทุนเข้ามาลงทุน
และในที่สุดมันก็ทำให้ Fungjai สามารถอยู่ด้วยตัวเองได้อย่างสง่าผ่าเผย
เป็น Startup Idol ของใครหลายๆคนแบบในทุกวันนี้นั่นเอง
“เราสัญญากับตัวเองว่าจะลองทำ 3
ปี 5 ปี แต่ถ้าเจอปัญหาแค่ครึ่งปีนี้
เราจะหยุดแล้วเหรอ?”
ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้
คุณท้อปก็ได้วางแผนกลยุทธ์ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Startup ของตัวเองด้วยกับฟีเจอร์ใหม่ๆ
ที่เอื้ออำนวยให้กับทางศิลปินและผู้ใช้บริการมากขึ้น การค้นพบเพลงใหม่ๆ
ศิลปินใหม่ๆ ก็จะทำได้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก
รวมไปถึงหากเราสนใจศิลปินกลุ่มไหนเป็นพิเศษ
ก็สามารถว่าจ้างศิลปินเหล่านั้นให้มาแสดงสดตามอีเว้นท์ต่างๆ
ได้ด้วยการจองคิวศิลปินผ่านระบบของ Lensod (เล่นสด) ที่ทาง Fungjai
เพิ่งประกาศเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
|
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันดับที่ 3 Itune Music
![]() | |
Apple Music นั้นถือว่าเป็นอีกก้าวของ Apple หลังจากเปิด iTunes store มานานพอสมควร
จนถึงจุดสูงสุด ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่า ยอดขาย iTunes Store ได้ลดลงพอสมควร
ถึงแม้ว่าจะจะขายดีอยู่ก็ตาม เพราะว่า บริการ Music Streaming มาแย่งยอดขายพวก ที่ขาย แบบขาดไปพอสมควร เพราะถ้าฟังเยอะๆ
ก็ถือว่าถูกกว่าพอสมควร
จุดเด่น ของ Apple Music
·
คลังเพลง มหาศาล ที่ฟัง เท่าไหร่ก็ไม่หมด – ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญมากๆของ
iTunes เพราะว่ามีคลังเพลง มหาศาล อยากหาเพลงอะไรก็เจอ
(ถึงแม้บางเพลง ต้องไปใช้ Apple Id ประเทศอื่นก็เถอะ)
·
Playlist เพลงน่าฟังสุดๆ – การฟังเพลงจาก Music
Streaming เรื่องมี่น่าลำคาญมากอย่างนึงคือ ถ้าเราไปเลือกเพลงไว้
แล้วให้มัน รันไปต่อไปเรื่อยๆ เอง ตัวแอพนั้น เลือกเพลงไม่ค่อยถูกใจเท่า เพลง บน Apple
มากนัก
·
ยิ่งฟัง ยิ่งคุ้ม – ถือว่าเป็นจุดเด่นของบริการ Music
Streaming อยู่แล้ว ยิ่งคุณฟังมากเท่าไหร่ ความคุ้มก็จะยิ่งมากขึ้น
·
โหลดเก็บมาฟังได้ – หลายๆคนคงมีปัญหาว่าไม่อยากให้ 3G/4G
หมดเร็วแล้วไปติด FUP อันอย่างรวดเร็ว ตัว Apple
Music นั้นสามารถโหลดเพลงมาฟังได้ตลอดเวลา เมื่อไม่มีอินเตอร์เน็ต
·
ระบบ Search ขั้นเทพ – ก็ต้องยอมรับอีกว่า ระบบ Apple
สามารถ search ได้เก่งกว่า ตัวอื่นมากจริงๆ
ไม่เชื่อลองหาใน iTunes ดูครับ
·
กำลังที่จะหา Content แบบพิเศษมีมากกว่าคนอื่น – ด้วยการที่ Apple เงินหนา มีโอกาศสูงมากๆ ที่ Apple จะชื้อ Content
แบบที่ฟังได้เฉพาะ Apple Music โดยเฉพาะมาให้
·
ใช้ฟรี 3 เดือน!! – การทดลองใช้ ถือเป็นก้าวแรกที่จะให้
ผู้ใช้บริการ มาสัมผัสว่า ทำไมต้องใช้ Apple Music (ส่วนตัวเคยโดนกับพวกให้ลองใช้งานฟรี
แล้วถ้าชอบเสียตังบ่อยมาก)
·
สามารถฟังได้ทั้ง IOS Apple Watch Mac PC และ Android
จุดด้อย ของ Apple Music
·
ความละเอียดเสียงสู่ชาวบ้านไม่ได้เลย – Apple Music นั้นให้ความละเอียดของเสียงเพลงสูงสุดที่
256 Kbps แต่ในขณะที่รายอื่นๆ
รายละเอียดสูงสุดของเสียงเพลงคือ 320 Kbps ยังไม่นับรวม Tidal
ที่สามารถฟังได้ 1411 Kbps จนถึงไม่บีบอัดความละเอียดของเสียงเลย
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ความละเอียดระดับนี้ คนทั่วไปก็สามารถฟังได้โดยไม่ได้รับ ผลประทบใดๆ
แล้ว (Youtube ที่เปิดฟังให้ความละเอียดสูงสุด 128
Kbps)
·
ค่าบริการแพงกว่ารายอื่นเมื่อทำโปรโมชั่นร่วมกับค่าบบริการ –
สำหรับ KKBox และ
Deezer นั้นค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 89 บาทต่อเดือน แล้วยังมีแถมพวก SMS ด้วย ในขณะที่ Apple
Music ราคาอยู่ที่ ประมาณ $4.99 หรือประมาณ 170
บาท ชึ่งเมื่อเทียบแล้ว แพงกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว แต่ราคาปกติ
ของค่ายเพลงที่ให้บริการเมื่อไม่ร่วมกับ เครือข่าย ก็ยังอยู่ในราคาที่พอๆ
กันอยู่ครับ
·
จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิตได้เท่านั้น –
ผมเชื่อว่าน่าจะมีปัญหากับหลายคนมากๆ เพราะ กลัวความปลอดภัย เมื่อจ่ายผ่าน
เครดิต/เดบิต ว่าจะโดน hack เลยไม่กล้า
ใส่เข้าไป (ส่วนตัวส่วนใหญ่จ่ายผ่านบัตรเดบิต ความอันตราย
มากกว่าโจรคือนิ้วถือครับ ยิ่งรุ่นใหม่ๆ มี Touch ID แตะปุบชื้อเลยไม่ต้องคิด)
เมื่อรวมข้อดีข้อเสียแล้ว
ของ Apple Music ผมว่าถ้าคุณเป็นคนปกติ
ไม่ได้หูเทพ ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้บัตร เครดิต/เดบิต
ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ตัวนึง เพราะ ตัว Apple Music นั้นมีจุดเด่น เรื่อง เพลง เยอะ Playlist
ที่จัดให้น่าฟังกว่าตัวอื่น แต่ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะดีรึเปล่า แนะนำ
ไปลองใช้งานก่อนได้ครับ Apple ให้ฟรี ถึง 3 เดือนโดยไม่ต้องจ่ายฟังสักกะบาท สำหรับฟีเจอร์ อื่นๆ ของ Apple
Music นั้นก็มีอย่างเช่น Beat1 สถานี วิทยุของ
Apple เอง, Apple Music connect เอาไว้ติดต่อกับศิลปิน
รวมถึง สั่งให้เปิดเพลงผ่าน Siri
|
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันดับที่ 2 Deezer Music
![]() | |
Deezer นั้นเป็นบริการ
สตรีมมิ่งเพลงผ่านอินเตอร์เนท ที่จะให้เราสามารถฟังเพลงต่างๆได้มากกว่า 18 ล้านเพลงทั่วโลก ซึ่งการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งนั้น
มีข้อดีที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์เพลงต่างๆ การฟังผ่าน Deezer
นี้เป็นเพลงที่ถูกลิขสิทธิ์ทั้งสิ้นเลย ทำให้เราฟังได้อย่างสบายใจ
ในเรื่องของการเข้าใช้งานแอพ Deezer นั้นก็ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย หน้าตาของแอพพลิเคชั่นจะแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ในการเริ่มต้นฟังเพลงนั้น
เราสามารถเลือกค้นหาเพลง ชื่ออัลบั้ม หรือชื่อศิลปินที่ต้องการได้
หรือถ้าไม่รู้ว่าจะฟังเพลงอะไร ก็เข้าไปที่เมนู What's Hot ก็ได้เช่นกัน
ในนั้นจะมีรายชื่อเพลงที่น่าสนใจ เพลงใหม่ และชาร์ทเพลงยอดนิยม
โดยจะมีการแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของเพลงไว้ให้เราเรียบร้อยเลยล่ะ
หรือคนที่อยากฟังเพลงสไตล์ที่ชื่นชอบ แบบไม่เลือกเพลงเองก็ยังเข้าไปที่ Radio
Channel แทนก็ได้เช่นกัน
ในนั้นจะมีคลื่นวิทยุที่จัดเพลงเพราะๆโดยแบ่งตามประเภทของเพลงที่เราชอบไว้ให้แล้ว
เช่น Pop , Rock เรียกว่ามีครบทุกสไตล์การฟังเพลงของแต่ละคน
จุดเด่นที่น่าสนใจ
- สามารถสร้าง Playlist เพลงที่ชื่นชอบได้
- แชร์สถานะการฟังเพลงบน Facebook ได้
- มีระบบ Offline นำเพลงไปฟังที่ไหนก็ได้
แม้ไม่ต่ออินเตอร์เนท
- ฟังเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์
จุดด้อย
- เพลงใหม่ยังไม่อัพเดทมากนัก
- เพลงไทยส่วนมากจะเป็นค่าย RS เป็นหลัก
- การแสดงผลชื่อเพลงไทย บางครั้งเป็นภาษาคาราโอเกะ ทำให้อ่านชื่อเพลงได้ยาก
- ไม่มีโหมดแสดงเนื้อเพลง
สรุปโดยรวมแล้วทำให้แอพพลิเคชั่น
Deezer
นี้ ดูน่าจะถูกใจสำหรับคอเพลงได้ไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ
โดยในช่วงแรกนี้อาจจะมีเพลงไทยไม่มากเท่าไหร่นัก
แต่อนาคตน่าจะมีเพลงต่างๆเข้ามาในระบบมากขึ้น แอพ Deezer นี้เหมาะกับคนรักเสียงเพลง
ที่นอกจากจะให้เราฟังเพลงที่ชอบแล้ว ยังให้เราได้สนุกกับการค้นหาเพลงใหม่ สร้างสรร
Playlist เอาไว้ฟังและแชร์ร่วมกับเพื่อนๆ
แถมยังสามารถฟังได้ทุกที่ทุกเวลา
แม้ไม่มีอินเตอร์เนทเลยก็ตาม แจ่มดีมากๆเลยเนอะ
|
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันดับที่ 1 JOOX
![]() |
JOOX
ปัจจุบันต้องยกให้แอพฟังเพลงยอดฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้นแอพลิเคชั่น JOOX เพราะว่าไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้แอพลิเคชั่น
เรียกได้ว่าฟังเพลงกันฟรีๆเลย โหลดแอพลิเคชั่นก็ฟรี ฟังเพลงก็ฟรี
แถมยังอัพเดทเพลงฮิตติดชาร์ตทั้งในไทยและต่างประเทศกันแบบเรียวไทม์ โดยจุดเด่นของ JOOX นอกจากจะใช้งานง่ายแล้ว
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คนนิยมใช้กันคือฟีเจอร์หมวดอารมณ์เพลง
ที่ทางแอพลิเคชั่นได้คัดเพลงแนวและอารมณ์ต่างๆจัดไว้ในหมวดหมู่ที่เหมาะสมเป็นต้น
เช่น หมวดเพลงดังวัยเรียน,เพลงฮิตที่คิดถึง,เพลงเพราะฟังสบาย,เหงาๆเศร้าๆ เป็นต้น
รูปตัวอย่างแอพพลิเตชั่น JOOX บางส่วน |
นอกจากจะมีแต่ข้อดีแล้ว ของฟรีก็ไม่มีในโลกนะจ้ะ
เพราะถ้าเราโหลดฟรีเวลาฟังเพลงไปซักระยะนึงจะมีโฆษณาทาง JOOX คั่น ขณะที่ฟังเพลงอยู่
และบางเพลงทั้งในและต่างประเทศไม่สามารถโหลดฟรีได้ซึ่งต้องสมัครเป็นเมมเบอร์แบบ VIP
สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับก็คือ ฟังเพลงแบบไม่มีโฆษณาคั่นกลางไฟล์เพลงที่โหลดมาเก็บไว้ในโทรศัพท์มีคุณภาพเสียงที่ดีมาก
ต่างจากธรรมดาที่โหลดฟรี ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเป็นเมมเบอร์สมาชิก VIP นั้นสามารถดูได้ทาง JOOX
> VIP เลยจ้าาา
สามารถดาวน์โหลด JOOX ได้ทาง App store เลยจ้า
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น